วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

เนื้อหาที่ 4 เทคนิคในการจัดกิจกรรมโดยใช้ภาษาอังกฤษให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย

เนื้อหาที่ 4 เทคนิคในการจัดกิจกรรมโดยใช้ภาษาอังกฤษให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย เทคนิคในการจัดกิจกรรมโดยใช้ภาษาอังกฤษให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย การวางแผนการจัดประสบการณ์ทางภาษาควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่าการจัดประสบการณ์ มีความหมายที่กว้างกว่าการสอน หรือการถ่ายทอดความรู้ แต่เป็นการจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาทางภาษา และควรทำความเข้าใจด้วยว่าการเรียนรู้ภาษาเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กับการรู้หนังสือ (Literacy) การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยจึงต้องวางแผนให้ครอบคลุมทั้งเรื่องภาษาและการรู้หนังสือในระยะแรกเริ่ม โดยแผนดังกล่าวจะต้องเหมาะสมกับพัฒนาการทางภาษาและการรู้หนังสือของเด็ก และมีลักษณะบูรณาการ ให้เด็กได้ใช้ภาษาอย่างมีความหมายเป็นรายบุคคล การกำหนดสาระการเรียนรู้ที่ใช้สำหรับจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย 1. ประสบการณ์สำคัญด้านการใช้ภาษา เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ซึ่งสามารถแบ่งตามลักษณะการใช้ภาษา ดังนี้ 1.1 การฟัง เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทักษะหลายทักษะและมีลักษณะของการฟังที่หลากหลาย มาชาโด (Machado, 1999: 187) กล่าวว่า การฟังที่เด็กควรมีประสบการณ์มี 5 ประเภท ประกอบด้วย (1) การฟังเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน (Appreciative Listening) ซึ่งเด็กควรมีโอกาสฟังตามวิธีนี้ทั้งจากการฟังเพลง กลอน หรือเรื่องราวต่างๆ (2) การฟังอย่างมีวัตถุประสงค์ (Purposeful Listening) เด็กควรมีโอกาสได้ฟัง และปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือตอบสนองต่อสิ่งที่ได้ฟัง (3) การฟังเพื่อจำแนกความแตกต่าง (Discriminative Listening) เด็กควรมีโอกาสฟัง และแยกแยะเสียงต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม ตลอดจนจำแนกความต่างของการเปลี่ยนแปลงของเสียง (4) การฟังอย่างสร้างสรรค์ (Creative Listening) เด็กควรได้รับการกระตุ้นให้เกิดจินตนาการและมีอารมณ์ร่วมกับประสบการณ์ที่ได้ฟัง ซึ่งจะทำให้เด็กมีการแสดงออกด้วยคำพูด หรือการกระทำอย่างอิสระตามธรรมชาติ (5) การฟังแบบวิเคราะห์ (Critical Listening) เด็กควรได้ทำความเข้าใจ ประเมิน ตัดสินใจ และแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ฟัง โดยมีครูเป็นผู้ตั้งคำถามให้เด็กคิดและตอบสนอง 1.2 การพูด เป็นวิธีการพื้นฐานที่เด็กช่วยให้เด็กได้แสดงออกซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้เด็กได้พัฒนาการคิดดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นด้วย เด็กควรมีประสบการณ์สำคัญด้านการพูด (กรมวิชาการ, 2546: 37; Machado, 1999: 327) ดังนี้ (1) การแสดงความคิด ความรู้สึก และความต้องการด้วยคำพูด (2) การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง (3) การอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ (4) การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่น หรือการแก้ปัญหา (5) การเชื่อมโยงการพูดกับท่าทาง หรือการกระทำต่างๆ (6) การมีประสบการณ์ในการรอคอยจังหวะที่เหมาะสมในการพูด 1.3 การอ่าน เด็กปฐมวัยควรมีประสบการณ์สำคัญในการอ่านหลายรูปแบบ ผ่านประสบการณ์ที่สื่อความหมายต่อเด็ก ทั้งการอ่านภาพจากหนังสือนิทาน อ่านเครื่องหมาย อ่านสัญลักษณ์ หรืออ่านเรื่องราวที่เด็กสนใจ 1.4 การเขียน เด็กปฐมวัยควรมีประสบการณ์สำคัญในการเขียนหลายรูปแบบผ่านประสบการณ์ที่สื่อความหมายต่อเด็ก ทั้งเขียนภาพ เขียนขีดเขี่ย เขียนคล้ายตัวอักษร เขียนเหมือนสัญลักษณ์ หรือเขียนชื่อตนเองหรือคำที่คุ้นเคย ที่มา : http://www.nareumon.com/index.php?option=com สรุป การจัดกิจกรรมโดยใช้ภาษา ถือเป็นกิจกรรมที่ต้องพัฒนาทักษะในการใช้ภาษาของเด็ก ครูควรจัดกิจกรรมให้เด็กมีความสนใจและความสามารถของเด็ก โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อให้สามารถพัฒนาได้ตรงตามศักยภาพของเด็กแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม และใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องต่อไป

เนื้อหาที่ 3 กับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย

เนื้อหาที่ 3 กับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญในการสื่อสารกับผู้อื่น ซึ่งในอดีตการเรียนรู้ภาษาไทยเพียงภาษาเดียวอาจเพียงพอต่อการสื่อสาร แต่ในปัจจุบันนี้การรู้ภาษาไทยเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เนื่องจากโลกได้มีการสื่อสารและมีการใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เช่น อินเทอร์เน็ต ฯลฯ ทำให้โลกแคบลงและมีการสื่อสารที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังน้ำเขียวได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้โอกาสในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแก่เยาวชนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการศึกษาเรื่องของการพัฒนาการของสมอง ทำให้ได้เรียนรู้ว่าเด็กเล็ก หรือที่เรียกว่า เด็กปฐมวัยเป็นช่วงโอกาสที่ดีในการพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะด้านภาษา เป็นช่วงที่เด็กสามารถเรียนรู้ภาษาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด ตามทฤษฎีของ Brain Based Learning ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Window of Opportunity หรือหน้าต่างแห่งโอกาสการเรียนรู้ แต่สิ่งที่สำคัญในการสร้างทักษะ ผู้ที่เกี่ยวข้องมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจว่าวิธีการที่จะทำให้เด็กได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน และเป็นผลบวกต่อทัศนคติการเรียนรู้ภาษาสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นรากฐานให้เกิดการเรียนรู้ต่อไปในอนาคต ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจึงจัดให้มีการจัดกิจกรรมและจัดประสบการณ์การเรียนการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับเด็กปฐมวัยขึ้น โดยมีภาษาอังกฤษวันละคำให้เด็กได้เรียนรู้คำภาษาอังกฤษจากภาพที่น่าสนใจ และเป็นคำภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยและพบในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของเด็กเล็ก คำที่ครูสอนให้เด็กได้เรียนรู้จะเป็นคำภาษาอังกฤษที่สั้น ๆ ง่าย เพื่อส่งเสริมการจดจำให้กับเด็ก สอนบทสนทนาโต้ตอบสั้น ๆ การทักทาย และการบอกชื่อ โรงเรียนของตนเอง นอกจากนี้ครูได้เชิญวิทยากรชาวต่างชาติมาพบปะพูดคุยกับเด็ก เพื่อให้เด็กเห็นความแตกต่างของของคนไทยและชาวต่างชาติอย่างแท้จริง อาจเป็นในเรื่องของรูปร่าง หน้าตา สีผิว สีผม การแต่งกาย การใช้ชีวิตประจำวัน และภาษาในการพูดของไทย และชาวต่างชาติ เด็กก็จะได้ซึมซับและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่เด็กได้เห็น สำหรับเด็กเล็กบางคนอาจไม่เคยเห็นชาวต่างชาติก็ได้เห็น เด็ก ๆ ชอบการเรียนภาษาอังกฤษมากพูดและจดจำได้ดี เด็ก ๆ ตื่นเต้นที่ได้พบชาวต่างชาติ และไม่คิดว่าเป็นบุคลแปลกหน้าสำหรับพวกเขาเลย ครูคิดว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตในโลกยุคปัจจุบัน เพราะชาวต่างชาติได้แวะเวียนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้เด็กเล็ก และคนไทยทั้งประเทศมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเมื่อมีโอกาส ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้าน วังน้ำเขียวอยากเชิญชวนให้ชาวไทยทุกท่านช่วยสร้างเยาวชนตัวน้อยในวันนี้ให้เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าที่เก่งภาษาอังกฤษเพื่อนำประเทศไทยให้ก้าวล้ำเท่าเทียบประเทศอื่น เราตั้งใจออกแบบคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3 (และชั้นอนุบาล 2 สำหรับสาขาเชียงใหม่) อายุระหว่าง 5-6 ปี มาโดยเฉพาะ เพื่อปูพื้นฐานทักษะที่แข็งแกร่งทั้ง 4 คือ ฟัง พูด อ่านและเขียน ของเด็กๆ ให้ได้เริ่มต้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยวิธีการสอนจากอาจารย์คุณภาพของเรา ร่วมกับการใช้อุปกรณ์การเรียนและกิจกรรมสนุกสนานหลากหลายที่จะช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ ได้มีพัฒนาการการเรียนรู้ที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การสอนแบบ Jolly Phonics, การร้องเพลง, เกมส์และการทายคำศัพท์ ทำให้มั่นใจได้ว่าเด็กๆ จะมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ทั้งทางด้านไวยากรณ์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษ Jolly Phonics คืออะไร Jolly Phonics คือ วิธีการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ สามารถออกเสียง อ่านออกและเขียนได้ อย่างมีประสิทธิภาพและสนุกสนานกับการเรียนในขณะเดียวกัน ระบบการสอนนี้จะเน้นให้เด็กๆ เรียนรู้เสียงของตัวอักษร ผ่านการแสดงท่าทางด้วยสื่อหลากหลาย เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของสมองอย่างเป็นระบบ ผลลัพธ์ที่ได้คือ เด็กๆ จะสามารถอ่านออกและเขียนได้ตั้งแต่ยังเล็ก เด็กๆ จะได้เรียนรู้เสียงของตัวอักษรต่างๆ ซึ่งสามารถเปล่งเสียงออกมาได้แตกต่างกัน 42 เสียง จากการแสดงท่าทางประกอบเรื่องราวหรือนิทานที่น่าสนใจ ทำให้เด็กๆ สนุกไปกับการเรียนและสามารถจดจำเสียงของตัวอักษรต่างๆ ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งนี้เด็กๆ ยังจะได้เรียนรู้การผสมเสียงเพื่อสร้างเป็นคำต่างๆ ได้มากมาย การเรียนด้วยวิธีการนี้จะช่วยพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนของเด็กๆ ได้ในระยะเวลาอันสั้น สิ่งที่น้องๆ จะได้เรียนรู้จากคอร์สนี้ เรียนรู้การอ่าน เขียน และการออกเสียงผ่านการสอนแบบ Jolly Phonics ที่ทั้งสนุกและมีประสิทธิภาพต่อการกระตุ้นการเรียนรู้ทางภาษาของเด็กอนุบาล ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอย่างสนุกสนาน ผ่านหลากหลายกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การเล่นเกมส์ การร้องเพลง หรือการทายคำศัพท์ เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ และหลักการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้องผ่านการฟังนิทานและเรื่องเล่าสำหรับเด็ก สนุกสนานกับการเรียนภาษาอังกฤษในบรรยากาศที่เป็นมิตร เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ของเด็กๆ กับอาจารย์เจ้าของภาษาที่ผ่านการรับรองและมีประสบการณ์การสอนเด็กนักเรียนมาโดยเฉพาะ ผลการเรียนรู้ เกิดการพัฒนาทักษะทางการอ่านและการเขียนอย่างเป็นธรรมชาติ ความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในการสื่อสาร โดยเฉพาะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ เพิ่มคลังคำศัพท์ให้มากขึ้น สามารถใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้อย่างแม่ นยำและถูกต้อง อ้างอิง https://www.britishcouncil.or.th/english/children/kindergarten สรุป ความรู้เบื้องต้นภาษาอังกฤษสำหรับเด็กปฐมวัย ให้เด็กเรียนรู้จากสิ่งรอบ ๆ ตัวโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง กระตุ้นให้เด็กเกิด การเรียนรู้ตามความสนใจ ในชีวิตประจำวัน จากคำศัพท์ง่าย ๆ หรือสิ่งของรอบ ๆ ตัวที่เด็กมองเห็น